หากพูดถึงค่ารักษาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาทีโรงพยาบาลก็ดี คลิกนิกก็ได้ ซึ่งมีราคาสูง เว้นเสียแต่เราได้ทำประกันเอาไว้ ก็จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลงได้นั้นเอง แต่ยังไม่อีกหลายท่านที่อาจจะไม่ทราบข้อมูลการคุ้ทครองค่ารักษาจากประกันกันอย่างแน่นอน บทความนี้ขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “FAQ เกี่ยวกับการคุ้มครองค่ารักษา” กันครับ
การคุ้มครองของประกันหมายถึงอะไร?
การคุ้มครองค่ารักษา คือ หนึ่งในข้อตกลงระวังผู้เอาประกันกับบริษัทประกัน ซึ่งจะคุ้มครองค่ารักษาและค่าห้องของโรงพยาบาลที่เลือกไว้นั้นเองครับ
การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ต่างๆ
สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มีภารกิจหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยให้แก่ประชาชน ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ และผู้มีสิทธิเรียกร้องตามสัญญาประกันภัย รวมทั้งการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผู้ร้องเรียนกับบริษัทประกันภัยอย่างเป็นระบบครบวงจรตั้งแต่กระบวนการพิจารณาเรื่องร้องเรียนโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยโดยผู้ชำนาญการ และกระบวนการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ รวมทั้งการบริการข้อมูลประกันภัยให้แก่ประชาชนผ่านสายด่วน คปภ. ๑๑๘๖
เทคนิคการเลือกประกันที่ดีในอนาคต
●เลือกบริษัทประกันขนาดใหญ่ แน่นอนว่าการเลือกทำประกันกับบริษัทประกันขนาดใหญ่ ยิ่งหากมีเครือข่ายระดับโลกยิ่งมีความได้เปรียบหลายๆ อย่างในระยะยาวโดยเฉพาะความน่าเชื่อถือ เพราะหลายคนที่ทำประกันต่างก็หวังผลการดูแลในระยะยาว จึงทำให้หมดห่วงทั้งเรื่องการถูกโกง การดูแลที่ไม่ดี และสามารถอุ่นใจได้ในอนาคตว่าหากมีปัญหา บริษัทประกันนี้ก็จะมีความแข็งแกร่งด้านการเงิน ไม่ล้มละลาย และดูแลเราได้อย่างต่อเนื่อง
●เลือกบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน นอกจากการเป็นบริษัทใหญ่มีฐานและเครือข่ายระดับโลก จะสร้างความน่าเชื่อถือและเสริมความมั่นใจให้กับการตัดสินใจทำประกันกับบริษัทนั้นๆ แล้ว ความเชี่ยวชาญด้านการดูแลเฉพาะด้านของแต่ละบริษัท เช่น ความเชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันการเดินทาง ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่บ่งบอกความเป็นมืออาชีพในการทำงานนั้นๆ จึงทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นว่าทุกปัญหาที่จะต้องเจอ จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากมืออาชีพ
ปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย
1.อายุ ค่าเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับอายุของผู้ทำประกัน ซึ่งช่วงอายุที่ค่าเบี้ยประกันถูกสุด ได้แก่ อายุที่อยู่ระหว่าง 20-40 ปี หรือคนวัยทำงาน เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ร่างกายแข็งแรงมากที่สุด ส่วนช่วงอายุที่ค่าเบี้ยประกันค่อนข้างสูงได้แก่ ช่วงวัยเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี และช่วงวัยสูงอายุ 50-60 ปี
2.เพศ อัตราเบี้ยประกันภัยเพศหญิงจะสูงกว่าเพศชาย เนื่องจากความแข็งแรงของสุขภาพร่างกายที่แตกต่างกัน โดยเพศหญิงจะใช้เวลาในการฟื้นตัวจากการเจ็บป่วย หรือการบาดเจ็บทางร่ายกายนานกว่าเพศชาย
3.สุขภาพ ประวัติเกี่ยวกับสุขภาพและการรักษาพยาบาล รวมทั้งสภาพร่ายกายของผู้ขอเอาประกันภัยเป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย ทั้งนี้บุคคลที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ไม่เคยมีประวัติการเจ็บป่วยรุนแรง เบี้ยประกันภัยย่อมถูกกว่าบุคคลที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอหรือเคยมีประวัติการเจ็บป่วยร้ายแรง เนื่องจากบุคคลที่มีสุขภาพแข็งแรงย่อมมีความเสี่ยงน้อยกว่าในการที่จะได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยร้ายแรงในอนาคต
4.อาชีพการงาน(ความมั่นคงทางการเงิน) อาชีพเป็นปัจจัยหนึ่งที่บ่งบอกถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลว่ามีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด อาชีพที่มีความเสี่ยงภัยหรือมีแนวโน้มที่จะได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยสูง เช่น อาชีพวิศวกรคุมงานก่อสร้าง หรือช่างทำงานในโรงงาน เบี้ยประกันภัยย่อมสูงกว่าอาชีพพนักงานบริษัททั่วไปที่ไม่มีความเสี่ยง
และนี้คือข้อมูลภาพรวมเกี่ยวกับ “สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองค่ารักษาของประกัน” ที่เรานำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความนี้ครับ เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อยครับ
